เรากำลังโชว์ให้เห็นว่า business model สร้างความสำเร็จให้ธุรกิจได้อย่างไร

หนึ่งในตัวอย่างที่ดีที่สุด ก็คือ โรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce)

Rolls-Royce คือแบรนด์รถยนต์สุดหรูที่เป็นเจ้าของเครื่องยนต์บนเครื่องบิน คำว่าเจ้าของคือเจ้าของจริงๆ ปกติแล้วเวลาที่เราผลิตอะไหล่ให้เครื่องบิน ตัวเครื่องยนต์ก็จะกลายเป็นสมบัติของผู้ผลิตเครื่องบินไปด้วย ซึ่ง Rolls-Royce  ไม่ได้วาง Business Model แบบนั้น

แต่ใช้รูปแบบที่ชื่อว่า Performance-based contracting การทำสัญญาตามผลงาน เป็นการทำสัญญาโดยคิดจากการดำเนินงานนั้นๆ วัดจากปริมาณที่สามารถส่งออก ซึ่งลูกจะจ่ายค่าบริการให้เราตามที่ได้กำหนดกันไว้ ซึ่งในค่าใช้จ่ายนั้นมักจะรวมค่าดำเนินการ ค่าบำรุงรักษาซ่อมแซม ทำให้ลูกค้าสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้ง่ายขึ้น ยิ่งเรามีความเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างมูลค่าในการดำเนินงานให้กับตัวเองได้มากขึ้นเท่านั้น เพราะเป็นการช่วยประหยัดต้นทุนในการผลิต และการดูแลรักษา ก่อนที่จะส่งต่อไปให้ลูกค้า

การวางรูปแบบธุรกิจนี้ทำให้เครื่องยนต์ยังคงเป็นสมบัติของ Rolls-Royce และบริษัทยังรับผิดชอบในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมเครื่องยนต์ ค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่นการดำเนินการบำรุงรักษาและการซ่อมแซมจะรวมอยู่ในราคาแล้ว ด้วยนวัตกรรมนี้ Rolls-Royce ไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับตัวเองเท่านั้น แต่ยังสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้าด้วย โดยการช่วยให้สายการบินดำเนินการในรูปแบบของ Business Model ต้นทุนต่ำได้ เช่น Southwest Airlines ที่สายการบินจ่ายเฉพาะชั่วโมงการทำงานของเครื่องยนต์และไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องยนต์

รูปแบบธุรกิจนี้ของ Rolls-Royce คือการอิงตามแนวทางการทำสัญญาตามผลการปฏิบัติงาน (Performance-Based Contracting) ซึ่งธุรกิจประเภท นี้จะเห็นได้ในพวกอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมเคมี ผู้ผลิตรายต่างๆ ตัวอย่างเช่น Xerox ที่เป็นผู้ผลิตเครื่องถายเอกสารหรืออุปกรณ์ที่ความเกี่ยงข้องกับการจัดการเอกสารต่างๆ ในสำนักงาน โดย Xerox มีแนวคิดใช้หลักการเดียวกัน ลูกค้าไม่ต้องจ่ายเงินสำหรับเครื่องถ่ายเอกสาร ปกติเครื่องมือในสำนักงานพวกนี้จำเป็นต้องมีความชำนาญรวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญในการคอยดูและค่าบำรุงรักษา ซึ่งการขายบริการที่จะช่วยทำให้ต้นทุนต่ำลง แต่มีประสิทธิภาพสูง อย่างการให้สินค้ายังคงเป็นของบริษัท โดยให้ลูกค้าเช่าเครื่องมือแทนจะช่วยให้บริษัทเหล่านั้น มีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงแถมยังช่วยเพิ่มกำไรให้บริษัท

ธุรกิจประเภทนี้ทำให้สามารถรายได้จากความรู้และบริการ รวมถึงความรู้ด้านกระบวนการต่างๆ หรือการบำรุงดูแลรักษาที่มีความเกี่ยวช้องกับการบริการนั้นๆ ลูกค้าที่ไม่ต้องการจ่ายค่าบริการล่วงหน้าก็มีแนวโน้มที่จะชอบธุรกิจประเภทนี้ เช่นเดียวกันกับคนที่ต้องการความโปร่งใสและความมั่นคงในเรื่องของค่าบริการที่จะต้องจ่ายในขั้นตอนสุดท้าย