ต้องการเพิ่มโอกาสในการขายหรือไม่?

  • Posted byby sukchai
  • 1 minute read

มาใช้เคล็ดลับ 5 ประการนี้ปรับยุทธศาสตร์การตลาดของคุณเถอะ!

รู้ไหมว่า 60% ของนักการตลาดพบว่าการสร้าง Traffic เพื่อให้ลูกค้ามาเจอแบรนด์และสินค้าเป็นความท้าทายสูงสุด สำหรับการทำตลาดออนไลน์

จะบอกยังไงดี เอาเป็นว่าการสร้างช่องทางทราฟฟิกให้ลูกค้ามาเจอกับแบรนด์ก็เหมือนกับการเล่นหุ้น ด้วยการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของคุณ อาจทำให้กลายเป็นผู้ที่ทำเงินสูงสุดได้ทันที แต่เมื่อไหร่ถ้าคุณคลาดสายตา คุณอาจสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไปเลย

การตลาดดิจิทัลที่ยอดเยี่ยมจึงต้องมีการมอร์นิเตอร์ทุกอย่าง เพื่อกำหนดกลยุทธ์อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งบางครั้งมันยากกว่าการเล่นหุ้นอีก เพราะหุ้นดิ่งยังกู้คืนได้โดยขายให้เร็วที่สุด แต่ถ้าเว็บไซต์ของคุณตกอันดับการค้นหาบนออนไลน์ มันเป็นเรื่องยากมากที่คุณจะไต่ขึ้นมาได้ใหม่ได้ (แน่นอนว่า Keywords บางคำใช้เวลาอย่างต่ำถึง 6 เดือน เพื่อให้ติดการค้นหา)

แต่อย่างกังวลไปเลย เพราะเรามี 5 วิธีมาแนะนำ เพื่อทำให้คุณเพิ่มยอดขายได้โดยที่ไม่มีใครสร้าง Traffic แย่งลูกค้าไปจากคุณเสียก่อนได้

 

วิจัยของคู่แข่ง

ทุกวันนี้มีเครื่องมือช่วยเหลือคุณมากมายในการวิเคราะห์คู่แข่ง โดยใช้ข้อมูลที่เป็น ‘พฤติกรรม’ บนโลกออนไลน์ ซึ่งบอกได้เลยว่ามันค่อยข้างแม่นและชัดเจนมาก ยิ่งเป็นข้อมูลการทำแคมเปญทางการตลาดของคู่แข่งด้วยแล้ว ยิ่งน่าสนใจไปเลยใช่ไหมล่ะ ซึ่งไม่ต้องกังวลไป เพราะทุกวันนี้มีเครื่องมือในการช่วยคุณได้ เช่น SpyFu และ SEMrush ที่ทำให้คุณสามารถดูคำหลัก (Keywords) ที่คู่แข่งของคุณได้ซื้อบน Google AdWords รวมถึงรูปแบบโฆษณาทั้งหมดของพวกเขา

ไม่เพียงเท่านั้น การวิเคราะห์ยังลึกลงไปถึงขั้นว่ามีประวัติการโฆษณาตัวไหนของคุณบ้างที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด การที่รู้ทั้งเขาและเรานี้ จะช่วยทำให้คุณอยู่เหนือกว่าคู่แข่งและสร้างโอกาสการขายให้มากขึ้นไปได้

เปรียบเทียมทุกช่องทางการสร้าง Traffic ว่าช่องทางใดจ่ายแล้วได้ลูกค้าคุ้มที่สุด

เมื่อคุณได้ดูกลยุทธ์ของคู่แข่งแล้ว สิ่งที่ต้องทำตามมาคือคุณต้องเปรียบเทียบด้วยตนเอง ตรวจสอบดูว่าทุกช่องทางที่เสียเงินซื้อช่องทางทราฟฟิกไป ช่องทางใดได้ลูกค้ามากที่สุด จากนั้นก็ปรับลดงบประมาณช่องทางที่ไม่ได้ผล และเพิ่มช่องทางที่ได้ผลมากขึ้นแทน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้การกลับมาตรวจสอบที่กลุ่มเป้าหมายก็เป็นสิ่งจำเป็นไม่แพ้กัน กลุ่มไหนได้ผล ไม่ได้ผล ใช้เงินไปเท่าไหร่ จากนั้นก็ปรับลดงบประมาณ นอกจากนี้อย่าลืมที่จะมอนิเตอร์ดูความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเปลี่ยนไปหรือไม่ เศรษฐกิจมีผลต่อการใช้จ่ายอย่างไร? โดยสามารถตรวจสอบได้ผ่าน Google Trends และเครื่องมืออย่าง SpyFu และ SEMrush เพื่อดูว่ามีการลดลงทั่วทั้งอุตสาหกรรมหรือเป็นเพียงแค่คุณเท่านั้น

อย่าลืมใช้ Inbound Marketing

การตลาดแบบดั้งเดิม (Traditional Marketing) เรียกว่าแรงผลัก หรือ Outbound Marketing คือ ผลักทุกสารที่นักการตลาดต้องการบอกส่งมันออกไปยังสื่อและช่องทางต่างๆ เพื่อเข้าหาผู้บริโภค เช่น TV วิทยุ โทรทัศน์ ฯลฯ

ส่วนการทำ Inbound Marketing คือมุมมองที่คิดตรงกันข้าม เป็นการทำการตลาดเพื่อให้ผู้รับสารอยากเข้ามาหาเราเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ผลวิจัยบอกว่า 55% ของนักการตลาดกล่าวว่าการสร้างเนื้อหาในบล็อกเป็นความสำคัญ สำหรับการทำ Inbound Marketing คือเราต้องการเปลี่ยนจากคนแปลกหน้า (Stranger) ให้มาเป็นผู้เข้าชม (Visitor) ของเรา ผ่านการทำ Content ที่ตอบสนองการอยากรู้ของกลุ่มเป้าหมาย จากนั้นก็ทำให้เขาเป็นลูกค้าประจำ โดยการเสนอ Offer อะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลือ เช่น แจก How to หรือเคล็ดลับบางอย่าง แลกกับข้อมูลเล็กน้อย เพื่อหลังจากนนี้เราจะได้ส่งข้อมูลสินค้าบางอย่างที่เขาสนใจไปได้อย่างทึ่ควรเป็น

ใช้ข้อมูลสร้างกำไร

รู้ไหมว่าการตลาดไม่ได้ทำให้เกิดยอดขาย แต่การตลาดเป็นการสร้างกำไร ยิ่งมีฐานข้อมูลจากการทำ Inbound Marketing หลายช่องทางเพียงพอแล้ว ยิ่งมีโอกาสในการนำเสนอ Offer ไปให้กับคนที่สนใจจริงๆ ได้ โดยที่พวกเขาไม่รู้สึกรำคาญ จากข้อมูลพฤติกรรมที่จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่สร้างจุดแข็งให้คุณได้

ติดตามและประเมินผล

การปรับกลยุทธ์และนั่งคาดหวังผลลัพธ์ที่ดีที่สุดอาจไม่เพียงพอ คุณต้องมอนิเตอร์เพื่อดูว่ากลยุทธ์ของคุณมีประสิทธิภาพอย่างไร จากนั้นจดบันทึกความสำเร็จและความล้มเหลวทั้งหมด การทำเช่นนี้จะทำให้คุณมีมุมมองที่เป็นกลางเกี่ยวกับงานของคุณว่ามีความคืบหน้าไปอย่างไรบ้าง และช่วยในการปรับปรุงแคมเปญใหม่ในอนาคต

 

ฝากไว้ให้กับธุรกิจทุกคน แม้จะบอกว่ากว่า 60% ของนักการตลาด พบว่า การสร้าง Traffic เป็นความท้าทายสูงสุดก็ตาม เชื่อเถอะว่ามันลดลงได้โดยการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ที่มีอยู่ ผ่านเครื่องมือตรวจสอบและมอนิเตอร์ประเมินผลความสำเร็จหรือล้มเหลวอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการขยายฐานลูกค้า โดยไม่ลืมที่จะดูภาพใหญ่อย่างการติดตามและประเมินคู่แข่งเพื่อให้คุณมองเห็นทุกด้านอย่างครอบคลุมแท้จริง

 

DIGITAL BUSINESS CONSULT

สร้างโอกาสทางธุรกิจในยุค Digital ด้วยชุดความรู้จากประสบการณ์ตรงจากที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ ให้คุณทำธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างมีแบบแผน และเป็นรูปธรรม จัดตั้งและบริหารโดย ดร.โดม อุดมธิปก ไพรเกษตร เพื่อสนับสนุนที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ SMEs และนักการตลาดรุ่นใหม่ จึงให้ความสำคัญกับการให้คำปรึกษา สร้างความเข้าใจ ประยุกต์แนวคิด และใช้เครื่องมือ Digital เพื่อให้คุณดำเนินธุรกิจก้าวทัน Digital 4.0 ในปัจจุบัน