Digital Business Consult คงไม่ได้จะมารีวิวหรือวิเคราะห์ความเป็นไปหลายอย่างของภาคสุดท้ายของซีรี่ย์เรื่องนี้แต่อย่างใด แต่จะมาพูดถึงเรื่องราวของการทำการตลาดของ HBO ต่อ Game of Thrones ต่างหาก

บทเรียนการตลาดแห่งยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาจาก GAME OF THRONES
Winter is here.
Death is the enemy.
“ฤดูหนาวมาถึงแล้ว ความตายคือศัตรูที่แท้จริง”
คำโปรยของไฟนอลซีซั่นบทสรุปสุดท้ายของซีรี่ย์มหากาพย์อีกเรื่องหนึ่งของโลกอย่าง Game of Thrones แล้ว ซึ่งเป็นการเดินทางที่ทั้งอยากให้มาถึงและไม่อยากให้มาถึงของใครหลายคน แน่นอนว่ามันหมายถึงการคลี่คลายของหลาบปม แต่ก็เป็นสัญญาญที่บ่งบอกว่ามหากาพย์เรื่องราวระหว่างศึกชิงบัลลังก์ระหว่างตระกูลใหญ่และการรุกรานของคนตายกำลังถึงจุดสิ้นสุดลงเช่นกัน ด้วยความที่แฟนๆ ซีรี่ย์มีเป็นล้านคนทั่วโลก กระจายไปมากกว่า 170 ประเทศ
แน่นอนว่าวันนี้ Digital Business Consult คงไม่ได้จะมารีวิวหรือวิเคราะห์ความเป็นไปหลายอย่างของภาคสุดท้ายของซีรี่ย์เรื่องนี้แต่อย่างใด แต่จะมาพูดถึงเรื่องราวของการทำการตลาดของ HBO ต่อ Game of Thrones ต่างหาก
ใช้กลยุทธ์การตลาดปากต่อปาก (word of mouth)
รู้ไหมว่าใน Game of Thrones ซีซั่น 7 HBO ทำการตลาดผ่านแฮชแท็ก #PrepareforWinter และ #GoTs7 และก็ปล่อยให้แฟนซีรี่ย์ทำส่วนที่เหลือต่อเอง เช่นเดียวกับการปล่อยข่าวลือว่านักร้องเสียงดีอย่าง Ed Sheeran จะมาร่วมรับเชิญ 1 ฉากในซีรี่ย์ หรือข่าวลือเกี่ยวกับซีซั่น 8 ทั้งหมดว่าจะมีแค่หกตอนเท่านั้น
ซึ่งก่อนหน้านี้เรื่อง หลุดๆ ของ HBO เกี่ยวกับ Game of Thrones ก็ออกมาเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแนว ข่าวลือ หลุดสปอย (Spoil) บท หรือกระทั่งเรื่องการหลุดระดับ HD ผลงานแฮกเกอร์กับการปล่อยซีรี่ย์ให้คนทั่วโลกดูก่อนที่ HBO จะออกฉายของซีซั่น 6 และแม้แต่การที่ HBO พลาดหลุดเองใน EP ที่ 6 ของซีซั่น 7 word of mouth นี่แหละที่สร้างความน่าตื่นเต้นได้มากที่สุด
บทเรียนสำหรับนักการตลาด: บรรดาข่าวลือก็เปรียบเสมือนอาหารเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารมือสำคัญจะมาถึง เพื่อให้แฟนๆ รู้สึกหิว และอย่าลืมว่าพวกเขาจะอยากและกระหายมากยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อค้นพบว่า แต่ละซีซั่นนั้นใช้เวลาทำเฉลี่ยถึงหนึ่งปี
หมายความว่า ข่าวที่พวกเขาได้มาจะเป็นจริงหรือไม่ก็ต้องรอไปอีกนานทีเดียว
กลยุทธ์แบบนี้ไม่ได้มีแค่ HBO เท่านั้นที่ใช้ เพราะในวงการเทคโนโลยีนั้นทำมานานแล้ว ใช่แล้ว พวกข่าวหลุดโมเดลหรือสเปคเครื่องของไอโฟนรุ่นใหม่นั่นเอง
วางแผนระยะยาวและเล่าเรื่องด้วย Storrytelling
“Winter Is Coming”
ในดินแดน Westeros นั้นฤดูกาลไม่เหมือนกับโลกความเป็นจริงเท่าไหร่ ที่เกิดขึ้นไม่กี่เดือนก็ผ่านไป แต่ฤดูกาลใน Westeros นั้นยาวนานหลายสิบๆ ปี นานจนบางช่วงชีวิตของคนบางคนอาจไม่เคยได้เจอฤดูหนาวเลยด้วยซ้ำ ทำให้ “Winter Is Coming” คำพูดติดปากตั้งแต่เปิดเรื่
ฤดูหนาวที่ไม่ได้มีแค่ความหนาวเท่านั้นที่เป็นภัยคุกคาม แต่ยังมีบางอย่างที่เป็นตำนานมาพร้อมกันด้วย แน่นอนว่า กว่าฤดูหนาวจะมาถึงนั้นใช้เวลาถึง 7 ซีซั่น มันจึงเป็นการวางแผนกลยุทธ์เนื้อหาระยะยาว และผูกเข้ากับปมในซีซั่นสุดท้าย เพื่อสร้างความกระหายรู้ขีดสุด
จนเป็นการสร้างฐานกลุ่มเป้า
บทเรียนสำหรับนักการตลาด: ในโลกของ “แบรนด์” การพึ่งพากลยุทธ์อัจฉริยะสร้างผลลัพธ์ที่น่าทึ่งเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการวางแผนระยะยาวจาก Content เพื่อให้ได้ฐานผู้ติดตามของคุณ ช่วยให้คุณเติบโต คุณจะพบสิ่งเหล่านี้เป็นหลักในโซเชียลมีเดีย เพราะแฟนๆ ผู้ชื่นชอบจะเข้ามามีส่วนร่วมและทำการโปรโมทให้คุณได้รวมถึงการเข้ามาปกป้องแบรนด์คุณด้วย เมื่อทำ Content แล้วก็จู่โจมต่อเนื่องขณะที่เหล็กร้อน เหมือนอย่างที่ HBO ทำ