มือใหม่ต้องอ่าน! นี่คือ 7 ขั้นตอนการเริ่มต้นทำธุรกิจออนไลน์ เพื่อดึงดูดให้คนเข้าเว็บไซต์ให้มากที่สุดก่อนจะเปลี่ยนพวกเขาเหล่านั้นให้กลายเป็นลูกค้า

How to การเริ่มต้น ทำธุรกิจ ออนไลน์ (ตอนที่ 1)
มือใหม่ต้องอ่าน! นี่คือ 7 ขั้นตอนการเริ่มต้น ทำธุรกิจ ออนไลน์ เพื่อดึงดูดให้คนเข้าเว็บไซต์ให้มากที่สุดก่อนจะเปลี่ยนพวกเขาเหล่านั้นให้กลายเป็นลูกค้า
รู้ไหมว่ามีหลายคนที่เริ่มต้นและประสบความสำเร็จเพื่อทำสิ่งต่อไปนี้
- ตามหาความต้องการและเติมเต็ม (Find a need and fill it.)
- ทำคอนเทนต์โปรโมทสินค้า (Write copy that sells.)
- ออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายต่อผู้ข้าชม (Design and build an easy-to-use website.)
- ต้อนคนให้เข้าเว็บไซต์ด้วย (Use search engines to drive traffic to your site.)
- ทำตัวคุณเองให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Establish an expert reputation for yourself.)
- เพิ่มปุ่ม Subscribe อีเมลบนเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้พวกเขารับข่าวสารโปรโมชันอยู่เสมอ (Follow up with your customers and subscribers with email.)
- กระตุ้นการขายด้วยการเสนอขายอีก (Increase your income through back-end sales and upselling.)
Step 1: Find a need and fill it.
คนส่วนใหญ่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจมักมองพลาดเรื่องของการมองหาว่าจะขายอะไรเป็นอันดับแรกและมองหาตลาดรองรับเป็นอันดับสอง
ฉะนั้นเพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะประสบความสำเร็จคุณจึงควรสลับกันโดยเลือกที่จะมองความต้องการของตลาดก่อนเป็นอันดับที่ 1 จากนั้นสินค้าจะเป็นตัวแก้ไขปัญหาหรือตอบสนองความต้องการเหล่านั้น ซึ่งปัจจุบันอินเทอร์ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมากและประหยัดงบการวิจัยทางการตลาดได้เยอะ เพียงแค่ทำตามนี้
- เข้าไปตามเว็บบอร์ดอาทิ Pantip.com Dek-d.com หรือตามกลุ่มสังคมต่างๆ เพื่อดูคำถามที่ผู้คนถามกันและปัญหาที่พวกเขากำลังพยายามต้องการหาบางสิ่งมาแก้ไข เช่น กระทู้เกี่ยวกับปัญหารถมีกลิ่นเหม็น กระทู้เกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ว่าตลาดต้องการอะไร และสินค้าคุณจะแก้ไขเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร
- ค้นหาคีย์เวิร์ดที่พวกเขาสนใจจาก Search Engine อย่าง Google หรือ Baidu ดูสิ ซึ่งจะสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดสำคัญที่ผู้คนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจได้
- เข้าไปดูคู่แข่งทางการตลาดที่น่าสนใจบนเว็บไซต์พวกเขาว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไร จากนั้นนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาสินค้าและเว็บไซต์ให้ดีกว่าเดิม
Step 2: Write copy that sells.
วิธีการเขียนโปรโมทสินค้ามันค่อนข้างมีสูตรอยู่เหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไปเขียนคุณสมบัติมากมาย ทั้งที่จริงคือคุณต้องขายผลลัพธ์ เหมือนกับการขายกางเกงที่ไม่ต้องบอกว่าใช้วัสดุอะไร แต่ให้ขายผลลัพธ์ว่าใส่แล้วขาเล็กอย่างไร ซึ่งทฤษฎีนี้ใช้ได้ผลกับค้าปลีกชื่อดังอย่างห้าง Walmart เช่นกันแทนที่จะโฆษณาคุณสมบัติว่า ในห้างขายอะไรบ้าง ก็ออกสโลแกน ‘ประหยัดเงิน’ เมื่อซื้อของจาก Walmart ในสโลแกนที่ว่า “จ่ายน้อย อยู่ง่าย”

นอกจากนี้คุณอาจทำ Content จากเรื่องราวเหล่านี้
- มั่นตอบคำถามของลูกค้าที่หน้าเพจหรือในข้อความเสมอ เพื่อความน่าเชื่อ
- ต้องมีรีวิวจากผู้ที่เคยใช้สินค้า
- มีข้อเสนอพิเศษและส่วนลดต่างๆ ให้ลูกค้า
- รับประกันสินค้าตามระยะเวลาที่กำหนด
- ใส่ข้อมูลที่อยู่หรือข้อมูลที่สามารถติดต่อเข้ามาหาคุณได้
ทั้งหมดนั้นก็เพื่อทำให้กลุ่มเป้าหมายเชื่อไปด้วย เพราะอย่าลืมล่ะว่าลูกค้ามักจะจ่ายเงินก็ต่อเมื่อพวกเขาเชื่อมากกว่าความจริงเสมอ
Step 3: Design and build your website.
การมีเว็บไซต์สมัยนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้ว หลายครั้งที่พ่อค้าออนไลน์มัก Ignore กับการมีเว็บไซต์และมองว่าเป็นเรื่องยากหรือไม่จำเป็น แต่ความจริงก็คือ เว็บไซต์ คือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคนทำธุรกิจออนไลน์ เพราะเปรียบเสมือนหน้าร้าน ร้านค้า ที่เต็มไปด้วยข้อมูลที่ลูกค้าต้องทราบ อีกทั้งยังเป็นบ้านที่จำเป็นต่อการให้ลูกค้าหาคุณเจอบน Search Engine
การทำเว็บไซต์ที่ดีจึงต้องมีการออกแบบเพื่อให้ผู้เข้าใช้งานรู้สึก Friendly มากที่สุด เมื่อมีคุณภาพเว็บไซต์ที่ดีก็ง่ายต่อการติดอันดับที่ดีบน Search Engine หรือเสมือนกับการสร้างประสบการณ์ทีดีให้ลูกค้าประทับใจนั่นเอง
โดยการออกแบบเว็บไซต์ที่ดีประกอบไปด้วยดังนี้
- สามารถแสดงผลได้ดีต่อทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ แทปเล็ต ก็ต้องแสดงผลได้ เพื่อให้รองรับกับ ‘พฤติกรรม’
- เว็บ Parallax Scrolling เพื่อทำให้ผู้ใช้ได้มีปฏิสัมพันธ์กับเว็บมากที่สุด เนื่องจากเวลาที่เราเคลื่อนที่เมาส์หรือไถจอ ส่วนที่เราให้ความสำคัญจะเลื่อนตามไปด้วย เช่น home page หรือ landing page ที่เป็นหน้าโปรโมชันหรือแม้กระทั่งข้อมูลที่สำคัญเราตั้งใจจะให้ผู้บริโภคทราบ และยังเป็นการสร้าง Call to Action เพื่อเก็บฐานข้อมูลหรืออีเมลลูกค้า
- ฟ้อนต์ มีความหนา บาง มีฟ้อนต์หัวเรื่องและเนื้อเรื่อง การจัดวาง Text ที่ง่ายต่อการอ่าน
- มัลติมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือวิดีโอ เพื่อประกอบเนื้อหาเมื่อใส่เนื้อหาลงไปจะทำให้เนื้อหาอ่านง่ายขึ้น และยังให้ความรู้แก่ผู้เข้าชม เกิดความสนุกสนานสำหรับผู้อ่าน
- เว็บไซต์มีการอัปเดตข้อมูลสม่ำเสมอ
- ไม่ควรออกแบบขั้นตอนวิธีการสั่งซื้อให้ซับซ้อนเกินไป (ไม่ควรเกิน 2 คลิก)
สำหรับข้อมูลสำคัญที่ควรมีอยู่ในเว็บไซต์ ก็คือข้อมูลสำคัญที่ผู้คนมักจะคาดหวังว่าจะได้เห็นเมื่อเข้าชมเว็บไซต์ต่างๆ โดยส่วนมากจะประกอบไปด้วย
- รายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นรายละเอียดตามจริง
- ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทหรือสถานที่ผลิต-ขาย
- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ เช่น เชื่อ เบอร์โทร ช่องทางการติดต่ออื่นๆ
- ข่าวสารความคืบหน้าต่างๆ หรือเรื่องราวอัพเดตที่น่าสนใจ
- คำถามยอดนิยมต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ค่อนข้างมีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการ ซึ่งเป็นลักษณะ Template และเว็บสำเร็จรูปสามารถคลิกเข้าไปศึกษาเว็บไซต์เหล่านั้นได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้เลย
www.lnwshop.com
www.sogoodweb.com
www.wix.com/
www.siamwebhost.com/
สำหรับ Step ที่ 4 – 7 สามารติดตามได้ที่ลิงก์นี้ >> How to การเริ่มต้น ‘ทำธุรกิจ ออนไลน์’ (ตอนที่ 2)