โดย ดร.โดม อุดมธิปก ไพรเกษตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิทัล บิสิเนส คอนซัลท์ จำกัด
สวัสดีครับวันนี้ (28มี.ค.) เรากลับมาคุยกันต่อในรายการ ๆ SME CHAMPION ทางคลื่น 89.5 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี สำหรับวันนี้ทางผู้ดำเนินรายการหยิบประเด็นที่ต่อเนื่องจากเมื่อวานที่ผมได้ทิ้งท้ายประเด็นเรื่องของการโฆษณาในออนไลน์ โดยระบุว่าให้ทดลองซื้อทั้งวัน แล้วก็มาดูวินาทีดูชั่วโมงกันล่ะว่าชั่วโมงไหนมี Feedback เป็นอย่างไร แต่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็เว้นไว้เดี๋ยวค่อยซื้อใหม่ มันก็มีประเด็นคำถามว่าจริง ๆ แล้วโฆษณาออนไลน์มีเคล็ดลับอะไรบ้างที่เอสเอ็มอีต้องรู้ ???
คือจริง ๆแล้วเราต้องเข้าใจก่อนว่าพอเราพูดเรื่องการโฆษณามันต้องซื้อ แต่ถ้าเราพูดเรื่องของการประชาสัมพันธ์ไม่ต้องซื้อก็ได้ถูกมั้ยครับ ทีนี้บางคนบอกว่าฉันอยากขายของซึ่งการขายของไม่จำเป็นต้องโฆษณาก็ได้ ประชาสัมพันธ์ก็ได้นะแต่มันเห็นผลต่างกัน สมมติบางคนบอกว่าทุกวันนี้ก็ขายของได้ไม่เห็นต้องจ่ายเงินเลยแต่เป็นโฆษณานะ
ถามว่าที่คุณบอกโฆษณาคุณทำยังไงก็ไลฟ์สด ถามว่าการไลฟ์สดเรียกว่าโฆษณาหรือไม่ คือบ้านเรามันติดที่คำพูดไงคุณเอาของมาโชว์ถามว่าแล้วมีคนเห็นคุณกี่คน มีคนเห็นคุณเยอะหรือไม่ เพราะฉะนั้นอันนี้เป็นสิ่งที่ผมมองว่าวันนี้ผู้ประกอบการต้องเข้าใจก่อนว่าคุณกำลังต้องการทำอะไรบนโลกออนไลน์ ต้องการที่จะสร้างแบรนด์ บอกเล่าเรื่องราวของคุณผ่านโลกออนไลน์ ต้องการที่จะให้ลูกค้าได้รู้จักคุณ เป็นช่องทางเพื่อใช้สื่อสารกับลูกค้า หรือให้ลูกค้าได้สื่อสารกับคุณก็ต้องให้ชัด หรือต้องการเพิ่มยอดขาย
เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญบนโลกออนไลน์นั้นคอนเทนต์จะกลายเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ว่าจ่ายเงินหรือไม่จ่ายเงินนะ คอนเทนต์จะกลายเป็นจุดเริ่มต้น คอนเทนต์ดีบางทีไม่ต้องจ่ายเงินก็ได้ เพิ่มยอดขายได้มั้ย เพิ่มยอดขายได้แต่มันจะไม่ใช่ทุกครั้งต้องเข้าใจก่อน สร้างแบรนด์ได้หรือไม่สร้างได้แต่มันก็ไม่ใช่ทุกครั้ง ทีนี้ต้องเข้าใจอย่างนี้นะครับว่าวันนี้ถ้าเราพูดถึงดิจิตอล เครื่องมือหลัก ๆ ก็มี 1.เว็บ 2.เฟสบุ๊ค 3.ไอจี 4.ทวิสเตอร์ 5.ยูทูป 6.ไลน์ อันนี้ไม่ได้เรียงลำดับความสำคัญนะ
ถามว่าแต่ละตัวนั้นมีเทคนิควิธีการในเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์อะไรบ้าง เว็บไซต์คือบ้านโดยตัวมันเองถ้าไม่มีคนเดินมาเข้าบ้านก็จะไม่มีใครรู้จัก วิธีทำให้คนเดินมาเข้าบ้านคือ 1.ทำให้เขาจำชื่อเราได้คือจำชื่อตัวเว็บไซต์ จำชื่อเราได้ผ่านตรงไหนผ่านพวกโบชัวร์ ผ่านพวกนามบัตร ผ่านอะไรก็ตามที่เขาเคยเห็นจากที่อื่นไม่ว่าส่วนนั้นจะเป็นออนไลน์หรือออฟไลน์ เป็นชื่อเว็บเรานะครับแล้วจำได้ 2.คือมาจากการ Search บนกูเกิลใช่มั้ยครับ 3.มาจากลิงค์บนโซเชียลมีเดีย 4.มาจากลิงค์ที่มาจากเว็บอื่น ๆ
อันนี้คือ 4 ช่องทางที่เข้ามาในเว็บ ทีนี้ 4 ช่องทางที่ว่านี้มันก็มีส่วนที่เป็นฟรีกับส่วนที่จ่ายตังค์ บนเว็บเราถ้าเป็นสื่อเรา สื่ออื่นที่เรามีเช่นโบชัวร์ นามบัตรหรืออะไรอย่างนี้เราคงไม่ได้ทำเพื่อโปรโมทเว็บอย่างเดียว เราก็พูดถึงเรื่องอื่นด้วยแล้วก็มีชื่อเว็บไปตอนนี้ตีเป็นเรื่องการโฆษณาเว็บโดยตรงไม่ได้ ยกเว้นว่าเราซื้อหน้าหนังสือพิมพ์หรือโบชัวร์ หรือทำโปสเตอร์เพื่อโปรโมทตัวเว็บเลย อันนั้นก็ว่ากันไป
ส่วนกูเกิลก็จะมี 2 แบบเวลาคน Search ถ้าเราเขียนคอนเทนต์ดีเราก็ไม่ต้องจ่ายตังค์ แล้วเวลาคน Search ก็จะขึ้นลำดับแรก ๆ ถ้าเว็บทำดีด้วยนะ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จะต้องมาจากการที่ซื้อเราเรียกว่าซื้อ Google Adwords ลำดับแรกจ่ายเงินจะกี่สิบก็ว่ากันไป
ถ้าแบบโซเชียลมีเดียเฟสบุ๊คก็มาได้ 2 แบบ แบบไม่จ่ายตังค์เราโพสต์เข้าไปบนเฟสบุ๊คเพจเราแล้วมีคนเข้ามาหรือแชร์ต่อเราเข้ามา หรือมีคนเข้ามาที่เว็บแล้วแชร์ไปที่เฟสบุ๊คก็ว่ากันไป โมเดลก็จะคล้าย ๆแบบนี้ของพวกโซเชียลมีเดียแล้วก็ไปปรากฏอยู่ในเว็บอื่น มีคนไปพูดถึงเราแล้วก็มีลิงค์เอาไว้แล้วก็วิ่งกลับมาที่เว็บเราซึ่งมีทั้งส่วนที่ซื้อกับไม่ซื้อ
อันนี้ก็จะให้เห็นเพราะฉะนั้นคอนเทนต์ก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าสู้ด้วยคอนเทนต์อย่างเดียวไม่ได้บางทีก็ต้องจ่ายเงินทำรูปแบบ ทำแบนเนอร์โฆษณา ทำคลิปวีดีโอ ทำอะไรก็แล้วแต่ให้คนวิ่งกลับมาที่เว็บ เฟสบุ๊คก็เหมือนกัน มีส่วนที่ฟรีกับไม่ฟรี ไอจีก็เหมือนกัน
ทีนี้วันนี้ต้องเข้าใจว่าถ้าเจาะเรื่องเฟสบุ๊คกับไลน์ ซึ่งเป็นตัวสื่อที่เป็นโซเชียลมีเดีย 2 ตัว เฟสบุ๊คเองเวลาทำคอนเทนต์เพื่อโปรโมทถ้าฐานเราเยอะบางทีไม่ต้องจ่ายเงินซื้อ อย่างหนังสือพิมพ์บางฉบับมีฐานแฟนเพจอยู่ 10 ล้าน รายการทีวีบางช่องมีเกือบ 10 ล้าน โพสต์ทีนึง 1 % เห็นเท่ากับ 1 แสนนะ ก็ถือว่าเยอะ
ถามว่าเขาต้องซื้อโปรโมทมั้ยไม่จำเป็น เพราะว่าคน 1 แสนที่เห็นนั้นสามารถแชร์กันต่อได้อีก และถ้าเวลาโพสต์เขาเลือกช่องทาง เป้าหมายในการโพสต์นะครับเลือก Target ความสนใจของคนที่เป็นแฟนเพจ เลือกโลเกชั่นได้ มันก็จะทำให้คนเห็นตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นอีก คนที่เห็นแสนนึงที่เป็นกลุ่มเป้าหมายกับเห็นแสนนึงที่เป็นกลุ่มเป้าหมายบางส่วน ทั้งหมดไม่เหมือนกันอันนี้แบบไม่ต้องจ่ายตังค์ แต่ถ้าเขาอยากจะจ่ายตังค์บอกว่าเห็นหนึ่งแสนน้อยไป อยากเห็นสักล้านจาก 10 ล้านก็จ่ายตังค์เพิ่ม อันนี้ก็อาศัยว่ามีแฟนเพจเยอะ
ทีนี้กรณีคนมีแฟนเพจน้อยคือผมไม่ค่อยแนะนำให้ซื้อโปรโมทไลค์นะ โปรโมทให้คนมากดไลค์บนเฟสบุ๊คผมคิดว่ามันไม่ยั่งยืน ให้ใช้วิธีซื้อโพสต์มากกว่าแล้วถ้าคนชอบคอนเทนต์เขาจะติดตามเอง ยกเว้นบ้านเราต้องการยอดเร็ว ๆ อยากมีเงินบาท เพราะว่าการโปรโมทไลฟ์เดี๋ยวนี้แพง แต่ก่อนใหม่ ๆ 10 20 30 40 เดี๋ยวนี้บางที 2 บาท 3 บาท ยิ่งต้องการไลฟ์เพจที่มีคุณภาพยิ่งจ่ายแพง เดี๋ยวพรุ่งนี้มาคุยกันต่อครับ
VIDEO