ทำให้บทความนี้เราจะแนะนำ ‘ปัจจัย’ ที่จะมีผลต่อการกำหนด KPIs ที่ควรโฟกัส และช่วยคุณวัดผลความสำเร็จธุรกิจคุณมากที่สุด

KPIs! วิธีเลือกกุญแจชี้วัดที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ
ไม่ว่าความตั้งใจในการสร้างเพอร์ฟอร์มานซ์ (Performance) ของคุณจะเกี่ยวกับกับกลยุทธ์ด้าน Inbound marketing กลยุทธ์ด้านการขาย หรือกลยุทธ์อื่นๆ การเลือกกุญแจชี้วัด (key performance indicators: KPIs) ที่เหมาะสม จึงเป็นขั้นตอนแรกที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อนำไปสู่ขั้นตอนที่สองคือการวัดผลเพื่อปรับปรุงการทำงาน
แต่คุณจะเลือก KPI ที่เหมาะสม สำหรับธุรกิจของคุณได้อย่างไร?
คำตอบสั้นๆ ก็คือ มันขึ้นอยู่กับ องค์ประกอบโดยรวม
ทำให้บทความนี้เราจะแนะนำ ‘ปัจจัย’ ที่จะมีผลต่อการกำหนด KPI ที่ควรโฟกัส และช่วยคุณวัดผลความสำเร็จธุรกิจคุณมากที่สุด
Choose KPIs Let’s get started.
เลือก KPIs ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเป้าหมายทางธุรกิจของคุณ
ตัวชี้วัดคือการวัดเชิงปริมาณหรือข้อมูลแบบ Data points ที่ใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพบริษัทของคุณเทียบกับเป้าหมายบางอย่าง
ตัวอย่าง
โจทย์ คือ คุณต้องเลือกตัวชี้วัด (KPI) ที่เกี่ยวกับการเพิ่มยอดขาย แล้วนำมาปรับปรุงงบประมาณที่ลงทุนไปกับการตลาดหรือปรับปรุงการบริการลูกค้า
เราขอยกโมเดลจากแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซทั่วไปที่เขาทำกันมาอธิบาย ก็คือเริ่มจากตั้งเป้าหมาย (Goals) และสร้างตัวชี้วัด (KPI) ที่มีความเกี่ยวข้อง (Relate) ดังนี้
-
- Goal 1 – เพิ่มยอดขาย 10% ในไตรมาสถัดไป / ตัวชี้วัด (KPI) จะประกอบไปด้วย อัตราการเข้าชมเว็บไซต์, ยอดขายรายวัน (Daily sales) และอัตราการขายสินค้าที่ได้เมื่อเทียบกับปริมาณการคลิก (Conversion rate)
- Goal 2 – เพิ่มอัตราการขายสินค้ามากขึ้นจากคนที่คลิกเข้ามาชมเว็บไซต์ หรือการเพิ่ม Conversion rate / ตัวชี้วัด (KPI) จะประกอบไปด้วย อัตราการขายสินค้าที่ได้เมื่อเทียบกับปริมาณการคลิก (Conversion rate), อัตราการละทิ้งรถเข็น (Abandonment rate), แนวโน้มราคาที่แข่งขันได้ และแนวโน้มราคาการจัดส่งสินค้าจากบริษัทโลจิสติกส์
- Goal 3 – เพิ่มอัตราการเข้าชมเว็บไซต์ 20% ในปีหน้า / ตัวชี้วัด (KPI) จะประกอบไปด้วย การเข้าชมเว็บไซต์ (Pageviews), ช่องทางการเข้ามาสู่เว็บไซต์ (Traffic sources หรือ Channel) เช่น Social Media – Search – Direct – Referral, อัตราการคลิกต่อผู้ที่เห็นโฆษณาทั้งหมด (Click-through rate: CTR) และอัตราการออกจากเว็บไซต์ทันที (Bounce rates)
KPI ที่เป็นไปได้แต่ละรายการเกี่ยวข้องโดยตรงกับเป้าหมายธุรกิจ เพราะฉะนั้นคุณต้องหาว่า เป้าหมายบริษัทของคุณคืออะไร คุณมีเป้าหมายที่จะปรับปรุงหรือเพิ่มประสิทธิภาพหรือไม่ อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับทีมบริหาร
แต่เอาเข้าจริง KPI ก็ไม่ใช่อะไรที่ฆ่าทีมมาก เพราะมันเหมือนเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดมากกว่าที่นำข้อมูลที่ได้จากการขายและการทำการตลาดมาวิเคราะห์เพื่อแก้ไขปัญหา และกำหนดเป้าหมาย ด้วยความสามารถของ Digital Marketing ที่สามารถวัดทุกอย่างได้ด้วยเมตริกที่ละเอียดมากกว่าการตลาดแบบเก่า
ไม่ว่าจะเป็น Views, clicks, conversions, การเปิดอ่านอีเมลโปรโมชัน และการติดตามกลุ่มเป้าหมายจดจบขั้นตอนการสั่งซื้อชำระเงิน
นอกจากนี้ ตัวชี้วัดที่คุณเลือกจะได้รับอิทธิพลจากรูปแบบธุรกิจที่ต่างกันด้วย ตัวอย่างเช่น บริษัทซอฟท์แวร์ที่ดำเนินธุรกิจแบบ B2B ในฐานะผู้ให้บริการอาจเลือกที่จะมุ่งเน้นไปที่การหาลูกค้าใหม่และเรทการสูญเสียลูกค้า ในขณะที่บริษัทค้าปลีกอิฐและปูนอาจมุ่งเน้น กำไรจากการสร้างรายได้จากการขาย อัตราการซื้อซ้ำ และค่าเฉลี่ยยอดขายต่อออเดอร์
นี่คือตัวอย่างของตัวชี้วัดมาตรฐาน (KPI) แบ่งตามอุตสาหกรรม
Key Takeaways
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่า KPI ของคุณจะวัดความก้าวหน้า เพื่อบรรลุเป้าหมายของบริษัท
- Less is more – น้อยแต่มาก เลือกตัวชี้วัด (KPI) ระหว่าง 4 – 10 ตัวเพื่อโฟกัสก็พอ
- ทำความเข้าใจผลการวิเคราะห์จาก KPI ของตัวเก่าและใหม่ เพื่อคาดการ์ณและปรับปรุงให้ได้ผลสำเร็จในอนาคต
- KPIs ควรสอดคล้องกับการเติมโตที่เป็นไปได้ของบริษัท เช่น บริษัทเพิ่งเปิดตัว แต่ตั้งเป้าหมายยอดขายให้ได้ 10 ล้านบาทเป็นต้น
- โปรดทราบว่าคุณควรเลือก KPI ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์และบริษัทของคุณมากที่สุด