บิทคอยน์ End Game เมื่อ BX.in.th ปิดอีกราย!

บิทคอยน์ End Game เมื่อ BX.in.th ปิดอีกราย!

บิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยทางข้อมูลสูงของ Blockchain มาใช้ เพื่อความอิสระทางด้านการเงิน เป็นส่วนตัวที่ไม่มีการระบุตัวตน

บริษัท บิทคอยน์ จำกัด (BX) ประกาศตัดสินใจยุติบทบาทการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล หรือการให้บริการด้านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (Digital Asset Wallet) เนื่องจากบริษัทฯได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจในทางอื่น ๆ แทนการประกอบธุรกิจเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ดังนั้นภายหลังจากวันที่ 30 กันยายน 2562 ลูกค้าจะไม่สามารถทำการซื้อขายแลกเปลี่ยน (เทรดดิ้ง) ผ่านเว็บไซต์ BX.in.th ได้อีกต่อไป แต่ลูกค้ายังคงทำคำสั่งถอนได้ตามปกติจนถึงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562

บิทคอยน์ บริษัท บิทคอยน์ จำกัด (BX)
รายละเอียดหน้าเว็บไซต์

บิทคอยน์ (Bitcoin) คืออะไร?

นี่คือหนึ่งในสกุลเงิน Digital & Fintech ที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยี Blockchain เป็นเทคโนโลยีรูปแบบการเข้ารหัสที่ไม่สามารถจับต้องได้ ไม่มีการควบคุมจากรัฐบาลหรือธนาคารกลาง แบงค์ชาติ รวมถึงนโยบายทางการเงิน

Blockchain dbc
รูปแบบการทำงานของ Blockchain

Bitcoin ที่เป็นสกุลเงินบนโลกดิจิทัล ที่ใช้เทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยทางข้อมูลสูงของ Blockchain มาใช้ เพื่อความอิสระทางด้านการเงิน เป็นส่วนตัวที่ไม่มีการระบุตัวตนได้

สกุลเงินดิจิทัลสู่โมเดลธุรกิจแชร์ลูกโซ่ (Ponzi schemes Business Model)

ด้วยความที่บิทคอยน์ได้รับความนิยมมากจนกลายเป็นช่องทางการเก็งกำไรรูปแบบใหม่ ที่ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับและนักลงทุนจะไม่ได้รับรองการคุ้มครองกรณีเกิดปัญหาการฟ้องร้อง จึงทำให้ตอนนี้มีเว็บไซต์ต่างๆ อ้างว่าบริษัทได้รับรองจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรืออ้างว่าเป็นโบรกเกอร์ชั้นนำของโลก มีเครือข่ายมากมาย แต่กลับกลับวางรูปแบบธุรกิจ (Business Model) เป็นธุรกิจเครือข่าย หรือธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้น (Multi-level Marketing: MLM)

เกิดความเข้าใจผิดเหมารวมไปว่าธุรกิจสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดหลอกลวงเป็นแชร์ลูกโซ่เหมือนกันหมด แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่ เพราะว่าแชร์ลูกโซ่คือธุรกิจที่ทำเงินจากการเก็บค่าเข้าเป็นสมาชิกโดยไม่มีผลิตภัณฑ์จริง หรือมีจริงแต่ก็ไม่ใช่รายได้หลักของธุรกิจ ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลการได้มาของเหรียญมีสองรูปแบบคือการซื้อและการขุดเอง

การซื้อ : ซื้อได้ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (กระดานเทรด) ที่จะมีกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ (Wallet) เป็นตัวกลางในการเก็บเงินดิจิทัล เมื่อเวลาเราซื้อหรือ เมื่อเวลาเราขุดเหรียญออกมาได้ Wallet ก็จะทำหน้าที่เหมือนบัญชีธนาคารที่คอยเก็บเงินเอาไว้ให้ เว็บไซต์สมัคร Wallet ที่คนนิยมกัน ก็อย่างเช่น bx.in.th และ coins.co.th

การขุด: ติดตั้งซอฟต์แวร์สำหรับขุด เช่น NiceHash Miner, BFGMiner, EasyMiner และ RPC Miner เป็นต้น หรือขุดบิทคอยน์แบบ Cloud Mining โดยการเช่าบริการขุดจากเหมืองขุดเหรียญต่างๆ ทั่วโลก จากนั้นให้คอมพิวเตอร์รันระบบโปรแกรมไปเรื่อยๆ เพื่อแก้รหัส หากแก้รหัสสำเร็จระบบจะโอนบิทคอยน์เข้า Wallet ที่เราลงทะเบียนไว้ (การขุดสมัยนี้เปลืองไฟลและทรัพยากรอย่างมาก)

ตัวอย่างเหมือง Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ที่มา
ตัวอย่างเหมือง Bitcoin ที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ที่มา

จากนั้นเมื่อได้เหรียญมาก็จะนำไปแลกเป็นเงินบาทกับเว็บไซต์ที่เปิดให้บริการซื้อ-ขายเหรียญดิจิทัล เช่น bx.in.thcoins.co.th และ localbitcoins.com เป็นต้น บริษัทพวกนี้จะได้กำไรจากค่าธรรมเนียม 1% ของการซื้อ-ขาย และรับซื้อไม่เกิน 10 BTC/วัน

ปัญหาก็คือการขุดเองนี่แหละ โดยบริษัทแชร์ลูกโซ่นั้นจะหลอกให้เราลงทุน โกหกว่าจะลงทุนให้กับบริษัทต่างชาติ และยังให้เราวนคนอื่นๆ ไปมาเยอะมาลงทุนด้วย โดยอ้างว่าจะนำเงินไปดำเนินธุรกิจขุดหา ‘บิทคอยน์’ จนเมื่อขุดได้เหรียญมาก็จะมาแบ่งกัน แต่ทีนี้เงินปันผลที่ได้มานั้นความจริงแล้วดันมาจากเครือข่ายชักชวนให้ลงทุน

ปัจจุบันมีบริษัทที่ได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจากก.ล.ต. รวม 4 ราย ประกอบไปด้วยศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (กระดานเทรด) จำนวน 3 ราย คือ บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Satang Pro) บริษัท บิทคอยน์ จำกัด (BX) (ที่เพิ่งจะประกาศเลิกปิดไป) บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด (BITKUB) และผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นนายหน้าและผู้ค้าคริปโตเคอร์เรนซี (Broker/Dealer) จำนวน 1 ราย ได้แก่ บริษัท คอยส์ ทีเอช จำกัด (Coins TH)

กลับมาที่การปิดตัวของ BX

สาเหตุหลักๆ ในการปิดให้บริการมาจาก 2 สาเหตุคือ ไม่อยากขอต่อใบอนุญาตสินทรัพย์ดิจิทัลจาก ก.ล.ต. ของปี 2563 และต้องการไปหาโอกาสในการทำธุรกิจใหม่ ซึ่งตามประกาศระบุว่า บริษัทฯ ไม่มีความประสงค์จะต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในปี 2563 อีกต่อไป บริษัทฯ ขอเรียนแจ้งให้ลูกค้าทุกท่านทำการเปิดคำสั่งถอนสินทรัพย์ดิจิทัลและเงินออกจากบัญชีของท่านที่มีอยู่ภายใต้ระบบ BX.in.th เพื่อเข้าสู่บัญชีธนาคารพาณิชย์และหรือกระเป๋าอิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัว (Personal Wallet) ของทุกท่านที่ได้ลงทะเบียนไว้กับเราให้เรียบร้อยก่อนวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562 

ปัญหาที่ตามมาก็คือ คนบางกลุ่มที่มีอาการตื่นตระหนก (Panic) จะรีบเทขายออกจนหมด ขาดทุนย่อยยับ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สามารถโอนย้ายไปที่เว็บไซต์อื่นๆ ที่ยังเปิดให้บริการอยู่ก็ได้ เช่น Satang Pro หรือ BITKUB เป็นต้น