ทบทวนใหม่สำหรับทุกคนที่เคยได้ยิน Paid, Owned & Earned กับความหมายของมีเดียยุคใหม่ที่ไม่มีในตำราเรียน (บอกเลยมุมนี้ไม่เหมือนคนอื่น)

ตัวอย่าง การตลาดบน ‘สื่อยุคใหม่’ กับ Paid, Owned, Earned Media
หากคุณทำงานแผนกการตลาด เอเจนซี่ สื่อสารมวลชน คุณอาจจะรู้คำตอบของ “Paid, Owned & Earned Media หรือสื่อที่เราเป็นเจ้า, สื่อที่ได้มาฟรีจากคนพูดถึงแบรนด์ และสื่อที่ต้องจ่ายเงิน” ขณะที่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก การตลาดเป็นแค่งานหนึ่งในความรับผิดชอบมากมายเกินกว่าที่จะต้องให้ความสำคัญหรือต้องเข้าใจเชิงลึก เราจึงเห็นผู้ประกอบการรายย่อยเลือกใช้สื่อออนไลน์เพียงแค่รู้ว่าต้องใช้ แต่ไม่รู้ทำไมต้องใช้ หรือเหตุผลความหมายที่แท้จริงของผลที่ต้องได้จากการใช้สื่อนั้น หรือสื่อนั้นสามารถทำอะไรได้มากกว่าแค่ซื้อโฆษณาขายของ
ดังนั้นคุณอาจไม่คุณกับการวางแผนโดยใช้สื่อแต่ละประเภทอย่าง สื่อที่เป็นเจ้า, สื่อที่ได้มาฟรีจากคนพูดถึงแบรนด์ และสื่อที่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งไม่ว่าคุณจะคุ้นเคยกับการตลาดแบบไหน เป็นเจ้าของธุรกิจเล็กจนไปถึงใหญ่อย่างไร การเลือกใช้สื่อกลยุทธ์ทางการตลาดทั้ง 3 ประเภทนี้แบบยุคใหม่ก็ต้องเข้าใจและเลือกใช้อย่างเหมาะสม
มาดูกันดีกว่าทั้งสามประเภทเกี่ยวข้องกันอย่างไร เพื่อนำมาสร้างกลยุทธ์การตลาดสำหรับธุรกิจของคุณ
สื่อที่เราเป็นเจ้า, สื่อที่ได้มาฟรีจากคนพูดถึงแบรนด์ และสื่อที่ต้องจ่ายเงินคืออะไร
Owned media คือ สื่อที่คุณเป็นเจ้าของเอง สามารถใช้ประโยชน์จากช่องทางที่คุณสร้างและควบคุมได้ สำหรับในยุคนี้ก็จะเป็น Website, YouTube, Facebook, Twitter และ Instagram (แม้ในความเป็นจริงคุณจะไม่ใช่เจ้าของแพลตฟอร์มเหล่านี้ก็ตาม)
Earned media คือ สื่อที่ได้มาฟรีจากคนพูดถึงแบรนด์ เช่น ลูกค้า ข่าวประชาสัมพันธ์ Influencer เป็นต้น
Paid media คือ สื่อที่เราต้องจ่ายเงิน เช่น Advertorial, Sponsored, Banner บน Website การซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม เป็นต้น
อย่างไรก็ตามสำหรับ Owned media เราสามารถแยกออกมาได้อีก 1 Segment เนื่องจากอย่างที่ได้กล่าวไปในตอนแรกว่าเหล่าแพลตฟอร์มที่เราใช้ฟรีเป็นเจ้าของบัญชีนั้น สุดท้ายเราไม่ใช่เจ้าของเป็นแค่ Users ที่ทำ User Generate Content บนแพลตฟอร์ม ทำให้อีกหนึ่งรูปแบบที่เราจะจำแนกออกมานั้นจะได้ลักษณะดังนี้
เราอยากให้คุณสังเกตไปที่ SEO เห็นหรือไม่ว่าเราวางกลยุทธ์ SEO ไว้ที่ Owned media ไม่ว่าจะเป็นการจัดกลุ่มเพื่อวางแผนสื่อในลักษณะใดก็ตาม เนื่องจาก SEO ควรเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสื่อของตัวคุณเองในระยะยาวและเป็นสิ่งที่เรียกว่าการสร้างรอยเท้าทางดิจิทัล (Digital Footprint) ให้กับแบรนด์ หรือการสร้างชีวิตอมตะให้แบรนด์ โดยเอาอัปเดตตัวเองลงไปใน Platform ตั้งแต่ฝัง Code ให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูลบนเว็บไซต์ เพื่อให้เราอยู่อันดับต้นๆ ของการค้นหาบน Search Engine ผลักดันให้ผู้ที่ค้นหา เข้าสู่เว็บไซต์ของเรามากขึ้น
เพราะฉะนั้นมันจึงไม่ใช่กลยุทธ์แบบเส้นตรงอีกต่อไป : Paid->Owned->Earned
คุณจะตั้งหลักจากการจ่ายเงินก่อนไม่ได้แต่ควรลองจากสื่อในมือคุณเองก่อน แล้วใช้การโฆษณาช่วยให้มันขยายวงกว้างขึ้นแทน