Location Based ใช้ช่องทางไหนถึงโดนใจ? (มีคลิป)

 โดย ดร.โดม อุดมธิปก ไพรเกษตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิทัล บิสิเนส คอนซัลท์ จำกัด

            สวัสดีครับพบกับรายการ SME CHAMPION ทางคลื่น FM. 89.5 สถานีวิทยุราชมงคล วันนี้ (9 เม.ย.) ทางผู้ดำเนินรายการได้หยิบประเด็นที่ต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามาร่วมพูดคุย นั่นคือเรื่องของการใช้กูเกิลในการยืนยันโลเคชั่นเพื่อจะให้การค้นหาแล้วเจอเรา

            อยากเรียนว่ามันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเลยครับสำหรับธุรกิจที่เป็น Local Business โดยเน้นคนที่จะต้องไปในท้องถิ่นต่าง ๆ แล้วก็ค้นหาธุรกิจของเราให้เจอ พวกร้านอาหาร ร้านของฝาก โรงแรม ที่พัก พวกนี้จะได้ประโยชน์จาก Google Search Engines ค่อนข้างมากเพราะฉะนั้นถ้าทำ Google Business Maps ก็จะได้ประโยชน์อย่างยิ่งครับ

 โดย ดร.โดม อุดมธิปก ไพรเกษตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดิจิทัล บิสิเนส คอนซัลท์ จำกัด

            สวัสดีครับพบกับรายการ SME CHAMPION ทางคลื่น FM. 89.5 สถานีวิทยุราชมงคล วันนี้ (9 เม.ย.) ทางผู้ดำเนินรายการได้หยิบประเด็นที่ต่อเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมามาร่วมพูดคุย นั่นคือเรื่องของการใช้กูเกิลในการยืนยันโลเคชั่นเพื่อจะให้การค้นหาแล้วเจอเรา

            อยากเรียนว่ามันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเลยครับสำหรับธุรกิจที่เป็น Local Business โดยเน้นคนที่จะต้องไปในท้องถิ่นต่าง ๆ แล้วก็ค้นหาธุรกิจของเราให้เจอ พวกร้านอาหาร ร้านของฝาก โรงแรม ที่พัก พวกนี้จะได้ประโยชน์จาก Google Search Engines ค่อนข้างมากเพราะฉะนั้นถ้าทำ Google Business Maps ก็จะได้ประโยชน์อย่างยิ่งครับ

            มันก็มีคำถามว่าแล้วต้องเป็นร้านที่มีชื่อเสียงถึงจะทำหรือไม่  ผมอยากเรียนว่าจริง ๆแม้ไม่มีชื่อเสียงก็สามารถเริ่มต้นทำได้เพราะมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับสเกลหรือขนาดของร้าน ยิ่งถ้าร้านค้ามีขนาดใหญ่งบประมาณที่เขาจะโฆษณาประชาสัมพันธ์ก็เยอะ แต่พอเป็นร้านเล็ก ๆ จำเป็นเพราะว่างบโฆษณาประชาสัมพันธ์มีไม่มาก เพราะฉะนั้นการที่เราใช้สื่อออนไลน์ให้เป็นประโยชน์ในแง่ของการประชาสัมพันธ์จึงจำเป็นอย่างยิ่ง

ก็อาจจะมีคำถามที่ตามว่าเมื่อเราทำตัวโลเคชั่นแล้วมันจะไปลิงค์กับโซเชียลหรือไม่ ก็ต้องเรียนว่าจริง ๆแล้วโซเชียลก็ทำได้ครับก็คือใช้เฟสบุ๊ค เมื่อสักครู่เราพูดถึงตัวกูเกิลก็คือทำ Google Fonts Business maps ทีนี้เวลาคน Search ก็จะ Searchบนตัว Google เวลาหาร้านค้า  วันศุกร์ที่ผ่านมาเราก็คุยกันว่าจริง ๆทั้งเฟสบุ๊คกับไลน์แอตก็จะมีฟังก์ชั่นที่เป็นเรื่องของ Location Based เหมือนกันซึ่งก็จะได้ประโยชน์แต่หมายความว่าเราก็ต้องเปิดเฟสบุ๊คแฟนเพจของเราเอง เสร็จแล้วก็ต้องไปเปิดไลน์แอตของร้านค้าเราด้วย เข้าใจว่าในแง่ของไลน์แอตกับตัวเฟสบุ๊คแฟนเพจนั้นคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยใช้ในการค้นหาธุรกิจ มีค้นหาร้านค้า หรือค้นหาที่พัก ถูกมั้ย

            เพราะว่าโดยความเข้าใจและความรู้สึกของคนเวลาจะค้นหาอะไรมักจะเข้าไปค้นหาที่ตัวกูเกิล ทีนี้ตัวเฟสบุ๊คแฟนเพจเองกับทางไลน์แอต เอาเฟสบุ๊คแฟนเพจก่อนซึ่งตัวเฟสบุ๊คแฟนเพจมันเหมาะสำหรับการโฆษณากรณีที่เราทำโลเคชั่นสมมติเรามีร้านค้าอยู่ในพัทยา หัวหิน เชียงใหม่ ปากช่อง เขาใหญ่ สิ่งที่เราทำได้ก็คือว่าเวลาคนเดินทางมาในพื้นที่แล้วเราลงโฆษณาในเฟสบุ๊คเพจเพื่อให้คนเดินทางที่มาในพื้นที่เห็น ตัวความสามารถของตัวเฟสบุ๊คมันสามารถที่จะแท็คได้ว่ามีใครเพิ่งเดินทางมาถึงหัวหิน เพิ่งเดินทางมาถึงพัทยา เพิ่งเดินทางมาถึงเชียงใหม่ เพิ่งเดินทางมาถึงปากช่อง เขาใหญ่ ฉะนั้นพอแท็คได้ปุ๊บเราก็โปรโมทได้โดยที่เขาไม่ต้อง  Search เพราะฉะนั้นมันต่างกันกับตัวกูเกิล กูเกิลคือเน้นประชาสัมพันธ์คือคนต้องเข้ามาค้นถึงเจอเราแต่เฟสบุ๊คแฟนเพจคือคุณไม่ค้นหาฉัน ฉันก็จะบอกคุณว่าฉันอยู่ตรงนี้ คุณแวะมาหาฉันสิ เพราะฉะนั้นเนื้อหา วิธีการในการที่จะสื่อสารกับลูกค้าแตกต่างกันนะครับ โดยที่กรณีเฟสบุ๊คเราไม่ต้องสนใจว่าคนกดไลท์แฟนเพจเราเท่าไหร่ คนกดไลท์น้อยก็ได้ไม่ต้องซีเรียส เพราะเราเน้นการโฆษณาเป็นหลัก

ทางผู้ดำเนินรายการยังถามต่อว่าถ้าดูในเฟสบุ๊คมันจะมีแบบที่เป็นโลเคชั่นแบบที่เขาเช็คอิน แล้วยังจะมีแบบอื่นหรือไม่ อยากเรียนว่ากรณีถ้าเป็นเช็คอินคือคนที่ไปที่นั่น คนได้ไปแล้วแล้วได้มีการเช็คอินที่นั่น แล้วพอเช็คอินที่นั่นปุ๊บมันก็จะเหมือนไปบอกเพื่อน ๆ ของเขาว่าเขาเคยมาเช็คอินที่นั่นที่นี่ หรือตอนนั้นเขาเช็คอินที่นั่นอยู่  ซึ่งประเด็นคือว่าคนแรกที่มานั้นคือใครเพราะถ้ามันไม่มีคนที่มาเช็คอินคนแรกหรือคนที่กำลังเช็คอินอยู่ ถามว่าคนอื่นจะเห็นหรือไม่ มันก็ไม่เห็น

แต่คนมันไม่ Search บนเฟสบุ๊คไง คนจะ Search บนกูเกิล ส่วนคนที่จะ Search บนเฟสบุ๊คคือรู้ชื่อร้านแล้ว สมมติว่ามีร้าน A B C ดังมากในพัทยา คนอยากรู้ว่าไปร้าน ABC ยังไง ซึ่งปกติเขาก็จะเช็คจากกูเกิลน้อยครั้งมากที่จะเช็คจากเฟสบุ๊ค แต่ถ้าสมมติคนมาที่ร้านแล้วและเราอยากให้คน ๆนั้นเป็นสื่อในการประชาสัมพันธ์ให้เราต่อ เพราะฉะนั้นเราก็ให้เขาเช็คอินที่ร้านเรา ตรงนี้เราได้ประโยชน์ เมื่อไหร่ที่เขาเช็คอินปุ๊บเพื่อนของเขาจะเห็นใช่มั้ยครับ มันก็จะเป็นเครื่องมือในการโปรโมทร้านของเรา ณ ขณะนั้น ทีนี้ถ้ามีคนเช็คอินเยอะคนที่อยู่ตรงจุดนั้น ๆ ก็จะเข้ามาที่ร้าน เห็นร้านของเรามากขึ้น ส่วนจะมาหรือไม่มาไม่ใช่ประเด็นแล้ว

เพราะฉะนั้นการลงโฆษณามันก็จะช่วยทำให้มีคนมาก่อน แล้วก็ผสมผสานกับเครื่องมือในแง่ของการเช็คอินก็จะได้ประโยชน์เป็นทวีคูณใช่มั้ย แต่ถ้าใช้เช็คอินอย่างเดียวนี่มันไม่มีลูกค้าที่เป็นจุดเริ่มต้น เพราะฉะนั้นในการดีไซน์ออกแบบมันก็ไม่เหมือนกัน อย่างกูเกิลเองเขาก็พยายามเก็บเงินในแง่ของการซื้อ Google ตัว Adwords บางทีคน Search อันดับของเราอย่างที่เราเคยคุยว่าคน Search บนกูเกิลถ้าติดอันดับ 1 อันดับ 2 นี่ คนคลิกนั้น 90 กว่าเปอร์เซ็นต์ ทีนี้ถ้าเราทำแล้วเราไม่ติดอันดับ 1 อันดับ 2 ติดในหน้าแรกก็ยังมีคนคลิกอยู่ แต่ถ้าคู่แข่งติดหน้าแรกอันดับ 1 อันดับ 2 จะทำยังไงเราก็ต้องซื้อโฆษณาถูกมั้ย เพราะฉะนั้นทุกโซเชียลมีเดียทุกสื่อที่เป็นสื่อออนไลน์เขาหารายได้จากการโฆษณา เพียงแต่ว่าวิธีการหารายได้มันเป็นแบบไหน

ทีนี้กลับมาพูดถึงตัวไลน์แอต ซึ่งไลน์แอตจะยิ่งลำบากเข้าไปใหญ่เพราะไลน์แอตนั้นถ้าเราไม่ได้เป็นเพื่อนกันเราก็ไม่รู้ใช่มั้ยครับ เพียงแต่ว่ามันสามารถมีในแง่ของ Location Based เตือนให้เพื่อนที่เคยมา แล้วก็เคยเป็นเพื่อนกันเห็นโฆษณาได้ว่าตอนนี้ร้านนี้อยู่ในพื้นที่ที่เราเคยกดไลน์แอตนะ เพราะฉะนั้นเวลามีเครื่องมือที่เป็นเครื่องมือออนไลน์แล้วเราจะใช้ คำถามคือว่าถ้าสามารถใช้ได้ก็ใช้ทั้งหมดนะครับแต่ว่าวิธีการใช้ประโยชน์คนละอย่าง ไลน์แอตใช้สำหรับคนที่เคยมาซื้อของร้านเราแล้วถูกมั้ยครับเสร็จแล้วเขากลับไปกรุงเทพฯเขาอยากจะซื้อซ้ำ ไลน์แอตจะเป็นเครื่องมือที่ดีมากในการทำให้เกิดการซื้อซ้ำได้ สมมติว่าเคยซื้อผลไม้บางอย่างจากพื้นที่ที่ขายหน้าร้านแล้วอยากจะซื้อซ้ำให้เขาส่ง ถ้าร้านค้ามีบริการเดลิเวอรี่ส่งถึงกรุงเทพฯโอเคไลน์แอตจะบอก

กรณีถ้าเป็นเฟสบุ๊คมันจะเหมาะสำหรับการโฆษณานะครับ ซึ่งในมุมมองผมจะดีกว่าตัวกูเกิล เพราะตัวกูเกิลเองมันเหมาะสำหรับการโฆษณาแบบคนมีความตั้งใจแล้ว ยกตัวอย่างเช่นสมมติว่าผมอยากจะกินอาหารทะเลแต่ปรากฏว่าในร้านที่พัทยาหรือหัวหินเจ้าของร้านไม่ได้ขายอาหารทะเล แต่ขายอาหารที่เป็นอาหารท้องถิ่น ทีนี้อยากให้คนที่ไปพัทยาหรือหัวหินรู้ว่ามีร้านขายอาหารท้องถิ่นที่ไม่ใช่อาหารทะเล ซึ่งคนส่วนใหญ่ไปแหล่งท่องเที่ยวทะเลก็อยากกินอาหารทะเลถูกมั้ย      เพราะฉะนั้นวิธีการคือทำให้เขารู้สึกว่าถ้าคุณมาถึงหัวหินหรือพัทยาแล้วคุณกินแต่อาหารทะเลคุณอาจจะกินอาหารที่มันจำเจซ้ำซาก ลองเมนูใหม่มั้ย มีเมนูสำหรับท้องถิ่นแนะนำ

            ผมเคยนะไปพัทยาหรือไปหัวหิน ไปกินแบบส้มตำ ลาบน้ำตกอย่างนี้ เออมีร้านประจำอยู่เลยนะทั้งที่หัวหิน พัทยา ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถ้าไปหัวหินหรือพัทยาต้องไปกินร้านนี้ประจำ ทั้ง ๆที่กรุงเทพฯก็มี แต่เรารู้สึกว่าถ้าเราไปพัทยา หัวหิน เราเบื่ออาหารทะเลแล้ว ถ้ากินอาหารทะเลประจำมันรู้สึกน่าเบื่อมากแต่ถ้ามีอาหารที่มันแนะนำในท้องถิ่นบ้างเราจะรู้สึกดีมาก อันนี้ก็เป็นตัวอย่าง เพราะฉะนั้นคนที่ขายอาหารประเภทอื่นที่มันไม่ใช่อาหารทะเลมันก็สามารถที่จะโปรโมทให้คนเห็นได้นะถูกมั้ย หรือบางทีคุณอาจจะเป็นอาหารทะเลแต่คุณอาจจะมีจุดขายแบบมันแตกต่างจากคนอื่นใช่มั้ย คุณก็โปรโมทได้ เพราะฉะนั้นอันนี้ผมคิดว่ามันเป็นเสน่ห์ของตัวเฟสบุ๊ค